สถิติของ omyaielectric

สถิติวันนี้

947

คน

สถิติเมื่อวาน

1503

คน

สถิติเดือนนี้

4924

คน

สถิติปีนี้

17341

คน

สถิติทั้งหมด

3478106

คน

ก่อตั้งเว็ปไซด์เมื่อ  2009-09-11

               

ค้นหาสินค้า พิมพ์รุ่นที่ต้องการ
   Add Friend
เพิ่มเพื่อน

 >>หมวดสินค้า ทั้งหมด<<


 

ตู้เย็น ทุกขนาด

เครื่องซักผ้า / เครื่องอบผ้า

ตู้เเช่ไวน์ / ตู้เเช่เเข็ง

 LED TV LG 

LED TV SAMSUNG  

LED TV SHARP

LED TV HAIER

เเอร์ - เครื่องฟอก  เครื่องเป่ามือ

พัดลม ตั้งโต๊ะ-พื้น ติดผนัง

เครื่องใช้ไฟฟ้าครัวเรือน

 

 

 

 

 

เปรียบเทียบข้อแตกต่างระหว่าง LG OLED TV กับ LG SUPER UHD TV

สวัสดีครับนักอ่านทุกท่าน วันนี้ผมจะมาเปรียบเทียบเล็ก ๆ น้อย ๆ ระหว่าง LG OLED TV ปี 2017 กับ LG SUPER UHD TV ปี 2017 กันครับ ว่าจะมีอะไรแตกต่างกันบ้าง ซึ่งจะช่วยให้ท่านได้เลือกทีวีตอบโจทย์ตรงไลฟ์สไตล์มากกว่าเดิมครับ

ดูฟีเจอร์และเทคโนโลยีใหม่ LG OLED TV ได้ตามลิงค์นี้เลยนะครับ: http://www.lgblogger.com/lg-oled-tv-2017/

ข้อแตกต่างระหว่าง LG OLED TV กับ LG SUPER UHD TV

Design

01_G7_A_Picture_on_Glass

เรื่องดีไซน์ของ TV ทั้ง 2 ชนิดนั้นค่อนข้างเห็นความแตกต่างอย่างมาก เนื่องจาก LG OLED TV นั้นมีเม็ดพิกเซลที่สามารถกำเนิดแสงได้ด้วยตัวเอง เปิดและปิดได้อย่างเป็นอิสระต่อกัน จึงทำให้ด้านดีไซน์ของ LG OLED TV นั้นมีความบางเป็นอย่างมาก เมื่อเทียบ LG SUPER UHD TV หรือ TV ชนิดอื่น ๆ โดย LG SUPER UHD TV ยังคงเป็น LCD Panel ทำให้ยังคงมีความหนานูนกว่านิดหน่อยครับ

Color

10500_170608150352a8

ถ้าให้พูดถึงเรื่องความสดของสีหน้าจอ LG SUPER UHD TV ปี 2017 นั้นได้อัพเกรดเรื่องนี้มามากเลยทีเดียว ด้วยเทคโนโลยี Nano Cell ™ ทำให้สีมีความสดทุกองศา เมื่อนั่งมองจากมุมข้างของจอ 60 องศาขึ้นไป ความสมจริงของสีสันจะลดลงเพียงแค่ 5% เท่านั้น เมื่อเทียบกับสมัยก่อนแล้วที่ลดมากถึง 52% เลยทีเดียวครับ ทำให้เรื่องสีนั้น LG OLED TV กับ LG SUPER UHD TV มีความต่างกันน้อยมากจริง ๆ

Black Color

lg-perfect-black-oled-tv_f5a7dbef-599d-4a45-9fd6-8d5022f2055c

ถ้าหัวข้อเป็น LG OLED TV สิ่งที่ขาดไปไม่ได้เลยก็คือสีดำของ TV ประเภทนี้ครับ เนื้องจาก LG OLED TV นั้นขึ้นชื่อเรื่องสีดำสนิทมากกว่า Panel อื่น ๆ เพราะเม็ดพิกเซลที่สามารถกำเนิดแสงได้ด้วยตัวเอง จึงทำให้ เปิดและปิดได้อย่างอิสระ ฉะนั้นสีดำจึงจะมืดสนิทมากกว่า TV ประเภทอื่น ๆ ครับ แต่ LG SUPER UHD TV ปี 2017 นี้ ได้อัพเกรดเรื่องสีดำให้มีความดำสนิทมากยิ่งขึ้นอย่าง SUPER Black (Local Dimming) โดย Local Dimming นั้นจะช่วยให้การแสดงสีดำนั้นทำได้ดียิ่งขึ้น รวมไปถึงการแสดงสีสันและการแสดงรายละเอียดของภาพก็จะทำได้ดีขึ้นมากกว่ารุ่นก่อน ๆ ด้วยเช่นกันครับ แต่ถึงยังไงก็คงจะสู้ LG OLED TV แบบ 100% ไม่ได้นะครับ

Sound

Dolby Atmos

เรื่องเสียงในปี 2017 นี้ต้องยอมให้ทาง LG OLED TV เลยครับ เพราะว่า LG OLED TV นั้นใช้ระบบเสียง Dolby ATMOS ที่เป็น 4.2 Ch. ซึ่งจะมีการจำลองเสียงเป็นมิติขึ้นไปด้านบน ทำให้มีเสียงมาจากทั้งด้านบนและรอบทิศทางด้วยครับจึงจะทำให้เราได้ยินเสียงเครื่องบินหรือนกที่บินอยู่เหนือศรีษะของเราได้ครับ เปรียบเสมือนเราติดลำโพงไว้เหนือศรีษะนั่นเองครับ แต่โดยทาง LG Super UHD TV นั้นได้ใช้ระบบเสียง Sound Designed by Harman/Kardon ซึ่งเป็นระแบบเสียงแบบ 7.1 Ch. ทำให้มีเสียงรอบทิศทางเช่น และมีเสียงที่นุ่มลึก เพราะน่าฟังเช่นกันครับ

webOS 3.5 Smart TV

ทั้ง LG OLED TV และ LG SUPER UHD TV นั้นจะใช้ระบบ webOS 3.5 Smart TV เหมือนครับ โดยสามารถดูข้อมูลได้ที่: http://www.lgblogger.com/lg-webos-new-smart-tv-2017/

สำหรับผมนั้น LG OLED TV ก็ยังคงเป็นที่สุดของนวัตกรรมอยู่ดีครับ ทั้งฟีเจอร์และเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาเต็มสูบเลย ถึง LG SUPER UHD TV นั้นจะได้การอัพเกรดมามาก จนใกล้เคียงกับ LG OLED TV แต่ก็ยังคงเทียบไม่ติดอยู่ดี เนื่องจาก ดีไซน์ ความสดของสี ความดำสนิทของภาพที่แสดง รวมถึงเสียงที่ได้รับการอัพเกรดของ LG OLED TV นั้นมาแรงกว่าจริง ๆ แต่ราคานั้นก็แรงกว่า LG SUPER UHD TV ค่อนข้างมากครับ

เขียนโดยLGBlogger